Welcome To Blog Translation การแปล 1 By Massalin Saelee 5681114028

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

Learning Log
5 : (08/09/2015)
Adjective Clause & Adjective Phrase

          ทำไมเวลาเรียนภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาอื่นๆ จึงต้องเรียนไวยากรณ์ควบคู่กันไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้แย้งว่า สุภาพสตรีที่ประกอบอาชีพพิเศษหรือคนขับรถรับจ้างหลายคนไม่เคยได้เรียนเรื่องไวยากรณ์ ก็ยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ข้อนี้ก็จริงอยู่ แต่ก็เชื่อผมเถอะครับว่า ถ้าปราศจากความรู้ความเข้าใจเรื่องไวยากรณ์เสียแล้วละก็ การที่เขาจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นย่อมเป็นไปได้ยากยิ่งนอกจากนี้ ก็ยังมีผู้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า แล้วฝรั่งที่เขาไม่รู้เรื่องไวยากรณ์เลยก็ยังพูดหรือฟังภาษาอังกฤษได้ดีเหมือนฝรั่งคนอื่นๆ เหมือนกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คำตอบก็คือว่า ก็เพราะเข้าได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ แต่ก็อีกนั้นแหละ ถ้าไม่มีความรู้เรื่องไวยากรณ์เลย เขาก็คงใช้ภาษาของเขาเองได้ไม่ค่อยดีเหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้ว ไวยากรณ์ คืออะไร คำตอบก็คือ ไวยากรณ์ คือ ระเบียบของภาษา ว่าทำไมเจ้าของภาษาจึงใช้Tense นี้หรือรูปแบบประโยคอย่างนี้  การอ่านและการฟังจะช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันทำให้คุณมีวัตถุดิบที่ถูกต้องและเพียงพอเมื่อต้องพูดและการเรียนรู้แบบนี้ทำให้ได้รูปแบบประโยคที่เจ้าของภาษาใช้จริงๆ อย่างเป็นธรรมชาติเมื่อผ่านกระบวนการใส่วัตถุดิบอย่างเพียงพอและถูกต้องแล้วเมื่อต้องพูดคุยก็จะมีข้อมูลอย่างเพียงพอเพื่อจะพูด
          ดิฉันตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการเรียนหลักไวยากรณ์เป็นอย่างยิ่ง ดิฉันจึงได้ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างหลักไวยากรณ์ ในเรื่องของ Adjective Clause และ Adjective Phrase ซึ่งดิฉันได้ลองหาตัวอย่างมาอย่างละ 5 ข้อ และแปลข้อความเหล่านี้ตามที่อาจารย์ได้รับมอบหมายไว้
Adjective Clause
          1. The student whom I admire won a scholarship to study abroad.
          นักเรียนที่ผมยกย่องชมเชยคนนั้น ได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
          2. There are also Americans who thrive on violence in the media.
           ชาวอเมริกันผู้ที่เติบโตบนสื่อกลางความรุนแรง
          3. The snake which crept into a hole is called "cobra”.
          งูตัวที่เลื้อยเข้าไปในรู เราเรียกว่า "งูเห่า"
          4. The man who came to our house yesterday.
           นั่นคือผู้ชายคนที่มาบ้านเราเมื่อวานนี้)
          5. The perfect lady who is studying medicine lives in London.
          หญิงสาวเพียบพร้อมผู้ที่กำลังเรียนแพทย์อาศัยอยู่ที่ลอนดอน
Adjective Phrase
          1. really beautiful.
           สวยงามจริงๆ
          2. dark chocolate brown.
           ช็อกโกแลตเข้มสีน้ำตาล
          3. older than me.
          แก่กว่าฉัน
          4. extremely expensive.
          แพงสุดขีด
          5. smarter than me.
           เท่ห์กว่าฉัน
          ไวยากรณ์มันเป็นส่วนที่แทรกซึมอยู่ในทุกทักษะของภาษาอังกฤษส่วนการพูดเป็นกระบวนการ Output ที่ต่อยอดมาจากกระบวนการ Input ซึ่งรวมถึงการฟังและการอ่าน การฟังเพื่อให้เรารู้การถามแบบนี้ต้องตอบอย่างไร รูปแบบประโยคที่ฝรั่งพูดกันเป็นอย่างไร ออกเสียงอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาแรกของเราคงไม่สามารถเข้าใจได้ทุกคำที่เจ้าของภาษาพูดการอ่านจากบทสนทนา ที่กำลังฟังจะทำให้รู้รูปประโยคที่ถูกต้อง และพร้อมกับการฟังจะทำให้รู้ว่าการออกเสียงของแต่ละคำ หรือการออกเสียงรูปประโยค การเชื่อมเสียง การเน้นเสียงสูงเสียงต่ำ และนอกจากนี้ยังซึมซาบไวยากรณ์ทางอ้อมจากบทสนทนาด้วย ส่วนการพูดคล่องนั้นต้องมาจากการฝึกฝนการพูดและกระบวนการฟังไปพร้อมกัน การพูดที่ดีควรมาจากกระบวนการคิดและวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การฟังที่ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เข้าใจที่คู่สนทนาพูดเมื่อจะพูดเมื่อผ่านกระบวนการคิดในเนื้อหาที่จะตอบ การสื่อสารเป็นประโยคที่ถูกต้องจาก input ที่สะสมมาบวกกับการออกเสียงที่ถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนและกระทำบ่อยๆ ให้เกิดเป็นความเคยชินหรือทักษะ

http://examples.yourdictionary.com/adjective-phrase-examples.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น