Welcome To Blog Translation การแปล 1 By Massalin Saelee 5681114028

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

ารฝึกพัฒนาทักษะ...นอกห้องเรียน
25/08/2015
ฝึกการฟังจากบทสนทนาง่ายๆ


เราทุกคนรู้ว่าทุกภาษามีอยู่ 4 ทักษะ คือ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน และถ้าเป็นการเรียนภาษาแม่อย่างคนไทยเรียนภาษาไทย เราก็จะฝึกทั้ง 4 ทักษะไปพร้อม ๆ กัน คนไทยทุกคนจึงฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ภาษาไทยได้แม้ว่าจะเก่งไม่เท่ากันก็ตาม ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเราเรียนภาษาอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษที่เรากำลังพูดกันอยู่นี่นี้ ก็ ในแต่ละทักษะ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน นี้คนเรา นี้มีโอกาสฝึกแต่ละทักษะไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกในห้องเรียนหรือนอกห้องเรียน  ทักษะภาษาอังกฤษที่สำคัญที่สุดคือ ความคล่องในการพูดภาษาอังกฤษถือเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของคนไทย ความคล่อง (Fluency) คือการที่เราสามารถพูด และเข้าใจภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องมานั่งแปลทีละคำนั่นเอง ความคล่องคือการที่เราสามารถพูดกับเจ้าของภาษาได้ โดยเราเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด และตัวเค้าเองก็ฟังเราเข้าใจกุญแจสำคัญคือการฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษ การฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษจะช่วยให้เราทำความคุ้นเคยกับสำเนียงของเจ้าของภาษา นอกจากนี้เราจะได้เรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดทั่วๆไปด้วย สิ่งนี้หาได้ยากมากตามหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ การฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษด้วยตนเองจะเปิดโอกาสให้เราฝึกพูดตามไปด้วย ต่างจากการดูหนังภาษาอังกฤษที่อาจมีการใช้คำยากๆ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานมาดีพอ แทนที่จะได้ฝึกการฟังกลับต้องมาคอยเปิด พจนานุกรม ตีความหมายเอาเอง การที่จะเก่งภาษาอังกฤษให้ได้เราต้องฟัง อย่างเข้าใจและ อย่างต่อเนื่อง
ฟังอย่างเข้าใจ ถ้าเราไม่เข้าใจ เราก็จะไม่เรียนรู้อะไรเลย นี่เป็นสาเหตุที่ทำไมดูข่าวภาษาอังกฤษมากแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไรเลย เราไม่เข้าใจเพราะมันเร็วและยากเกินไปไงล่ะ ถ้าไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็ยากที่จะเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดดได้หลายคนพยายามฝืน ฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ยากและซับซ้อน ทำให้พัฒนาได้ช้าพอสมควร ดังนั้นหลักการสำคัญคือ เริ่มฝึกจาก ง่าย ไปสู่ ยาก . ต้องมีวินัยในการฝึก พยายามทำทุกวันให้ได้อย่างน้อยวันละ 1-2 ทำวันเว้นวันสุดท้ายเราอาจล้มเลิกโดยไม่รู้ตัว  
ฟังอย่างต่อเนื่อง แค่เข้าใจไม่พอ แต่ต้องฝึกฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องด้วย ถ้าเราได้ยินศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่แค่ครั้งเดียว ต้องลืมแน่ๆ ถึงฟังไป 5-10 ครั้งก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี มันต้องผ่านหูนับครั้งไม่ถ้วนกว่าเราจะซึมซับจดจำ และเข้าใจได้ในทันทีที่ได้ยินอย่าว่าแต่ฟัง 10 ครั้งเลย ถ้าอยากเก่งจริงๆก็ต้องฟังอย่างน้อย 50-100 ครั้งกว่าเราจะเข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ทันทีที่เห็น
วิธีการฝึก
1.  ฝึก ฟังจากเทป บทสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งบทสนทนานั้นจะต้องพูดด้วยความเร็วปกติที่ชาวต่างชาติ พูด   อย่าฝึกฟังจากเทปที่พูดช้ากว่าการพูดปกติของเขา เนื่องจากจะทำให้เราเคยชิน กับการฟังภาษาอังกฤษ แบบที่พูดช้าๆ และเมื่อเจอชาวต่างชาติที่พูดด้วยอัตรา ความเร็วปกติ เราก็ไม่เข้าใจเช่นเดิม
2.  การฝึกฟังครั้งแรกๆ ควรเริ่มฟัง ครั้งละ  5 - 10 ประโยค (อย่าฟังประโยคเยอะเกินไปจนไม่สามารถจะจำประโยคเหล่านั้นได้) 
3.  ขณะที่ฝึก ฟังภาษาอังกฤษ ต้องมี Script เสมอ
4. ในการฝึกฟังแต่ละครั้ง ต้องฟังให้ได้อย่างน้อย 4 รอบ คือ
รอบที่ 1 ฟังพร้อม Script และหากเห็นว่าคำใดที่เราเคยออกเสียงไม่เหมือนเขา หรือเราฟังไม่รู้เรื่องแม้จะมี Script  ให้หยุดเทป แล้วจดลงใน Script ว่า เสียงที่เราได้ยินนั้นคืออะไร
-          รอบที่ 2 และ 3 ออกเสียงตาม
-          รอบที่ 4, 5, 6, ..... ลองฟังแบบหลับตา โดยไม่มี Script
5.    ช่วงแรก ขอให้ฝึกฟังประโยคเดิมๆ ด้วยวิธีข้างต้น สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง (ฝึกทุกวันได้ยิ่งดี) แล้วจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนประโยคให้มากขึ้นเป็น 15-20 ประโยค ต่อการฝึกฟังแต่ละครั้ง
หากทำวิธีดังกล่าวข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะ ฟังภาษาอังกฤษ รู้เรื่องแล้ว ยังสามารถ พูดภาษาอังกฤษ ได้โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

สาเหตุที่สำคัญคือ ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ   กล่าวคือเราต้องพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษก่อน และต้องฟังประโยคซ้ำๆ หลายๆรอบจนขึ้นใจแล้วพูดตาม  ออกเสียงตามให้เหมือนที่สุด อาจไม่เข้าใจความหมาย หรือคำแปล ไม่เป็นไรการฟังภาษาอังกฤษถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด และพัฒนายากที่สุด  ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของคนไทยส่วนใหญ่ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดของการเรียนภาษาอังกฤษ ของคนไทย  หากเราลองนึกดูว่า แล้วภาษาไทยที่เราพูด, อ่าน และเขียนได้ในปัจจุบัน นั้น  มีพื้นฐานมาจากอะไร หากไม่ใช่มาจากการฟัง ฟังจนเข้าใจในสิ่งที่เราได้รับฟังมา  แล้วเลียนเสียงนั้น(คือการพูดตาม) จนพูดได้  หลังจากนั้น จึงเริ่มเรียนการเขียน   แล้วจึงตามมาด้วยการอ่าน เช่นเดียวกัน  หากเราได้ฟังภาษาอังกฤษ หลายๆรอบ บ่อยๆ ซ้ำๆจนจำขึ้นใจแล้ว เราจะพบว่าเราสามารถฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องและเข้าใจโดยอัตโนมัติ  นอกจากนั้นยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อีกด้วย  สรุปวิธีเก่งภาษาอังกฤษแบบง่ายๆก็คือ ต้องฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษง่ายๆ และที่สำคัญต้องฝึกฟังอย่างต่อเนื่องด้วยนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นต้องให้เวลาไปกับการฝึกอย่างจริงจัง เพราะการเก่งภาษาอังกฤษมันไม่มีทางลัด คนที่เก่งภาษาอังกฤษต้องผ่านความยากลำบากมาก่อนอย่างแน่นอน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น