Welcome To Blog Translation การแปล 1 By Massalin Saelee 5681114028

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

การฝึกทักษะ...นอกห้องเรียน
ทักษะการฟัง
6 :  (08/09/2015)

          ในยุคแห่งการพัฒนานี้ทุกสิ่งทุกอย่างมีความทันสมัยและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทแผ่วงกว้างไปในทุกๆสายอาชี การศึกษาเป็นสิ่งต้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก เห็นได้ชัดจากการเรียนการสอนในปัจจุบันที่มีการใช้สื่อมัลติมีเดียเป็นส่วนประกอบการสอนของครู สำหรับทางด้านองตัวผู้เรียนเองก็เช่นเดียวกันการค้นคว้าหาความรู้ และการสืบค้นติดต่อต่างๆกลายเป็นเรื่องง่ายทำได้สะดวกสบาย  ซึ่งการการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการเข้าด้วยกันระหว่างตำราและเทคโนโลยีมีประโยชน์อย่างมากที่จะทำมาร่วมกัน เป็นเรื่องง่ายของครูผู้สอนที่จะหาแหล่งข้อมูลหรือสื่อประกอบที่ชัดเจนให้แก่ผู้เรียน ส่วนตัวผู้เรียนเองก็ได้ประโยชน์จากการได้ศึกษาจากตัวอย่างที่คล้ายและใกล้เคียงกับสถานการณ์จริง ทั้งสองสิ่งนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดถ้าหากรู้จักใช้และคำนึงถึงขอบเขตของการใช้เทคโนโลยี จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ดิฉันได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการฝึกทักษะการฟังผ่านบทเรียนออนไลน์ ดิฉันจึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะดังกล่าวต่อจากบทเรียนนี้
          วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2558  ดิฉันมีวามตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะการฟังของตัวเองต่อจากบทแบบฝึกหัดที่แล้ว เมื่อครั้งที่แล้วดิฉันใช้บทเรียนแบบฝึกหัดที่ระดับพื้นฐานขั้นที่ 1 ในวันดิฉันมาต่อยอดโดยใช้แบบฝึกหัดระดับขั้นที่ 2 แต่ก่อนจะเริ่มบทเรียนใหม่ดิฉันได้กลับไปที่บทเรียนเดิมก่อน เพื่อทบทวนทักษะการฟังของตัวเองและเพื่อให้การเรียนรู้ในแบบฝึกหัดใหม่เชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ในบทที่ 2 นี้หน้าตาของแบบฝึกหัดก็คล้ายกับบทก่อน คือ มีไฟล์เสียง มีช่องตอบคำถาม ปุ่มกดตรวจตอบคำถาม ปุ่มเฉลย แต่ไฟล์เสียงในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นแค่คำศัพท์ 2-3 พยางค์เหมือนครั้งก่อน ไฟล์เสียงบทเรียนนี้เป็นวลี คือ มีคำศัพท์เป็นวลี 2-3 คำ เช่น skill cotton และ real machine เป็นต้น ดิฉันยอมรับเลยว่ามีความยากมากว่าบทเรียนก่อนหน้านี้ ขนาดมีแค่คำศัพท์คำเดียวดิฉันยังฟังไม่ออกเลย ครั้งนี้ก็เป็นเช่นนั้นอีกแล้วใน 10 ข้อนี้ ดิฉันตอบได้เพียงแค่ 2 คือ วลีที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นแล้วเท่านั้น กว่าที่ดิฉันจะได้ 2 ข้อนี้มา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดิฉันกดปุ่มฟังเสียงนับเป็นสิบๆครั้ง และพิมพ์คำตอบอย่างไม่แน่ใจเลยสักข้อเดียว เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ คำตอบของดิฉันก็ได้ถึงครึ่งเลย
          วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2558 ดิฉันจึงต้องกลับมาที่แบบฝึกหัดในหน้าเดิม คราวนี้ดิฉันเตรียมหูฟังมาโดยเฉพาะเพื่อการฟังเสียง วันนี้ดิฉันต้องผ่านมันไปให้ได้ ดิฉันเริ่มกดฟังเสียงข้อ 1 และตั้งใจฟังทำซ้ำประมาณ 4 ครั้ง ดิฉันก็ได้คำตอบ เมื่อทำครบทั้ง 10 ข้อ ดิฉันลุ้นกับผลคะแนนมาก ผลคะแนนครั้งแรกดิฉันได้ 5 คะแนน ผ่านครึ่งพอดี แต่ก็ยังไม่พอ ดิฉันต้องพยายามให้คะแนนเกินครึ่ง และคำตอบของดิฉันต้องมั่นใจด้วย จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ดิฉันทำคะแนนในรอบที่ 8  ได้ 9 ใน 10 นับว่าเป็นคะแนนที่ดิฉันพอใจมากกับการพยายามในครั้งนี้ ดิฉันกดดูเฉลยข้อ 8 เป็นข้อที่ดิฉันฟังทุกรอบก็ฟังไม่ออกซักที สุดท้ายมันก็คือ วลี ที่ว่า biology premium level วลีนี้ใช้คำศัพท์ไม่ได้ยากเลย แต่อุปสรรคเกิดตรงที่สำเนียงและการออกเสียงที่มีเทคนิคแบบเจ้าของภาษาโดยตรง อย่างคำว่า biology ดิฉันได้ยินว่า bright อะไรสักอย่าง ส่วน premium ก็ได้ยินแค่คำว่า มั่ม ไม่ได้ออกว่า เมี่ยม แต่อย่างใด แต่คำว่า level ดิฉันฟังออกไม่มีอุปสรรคแต่อย่างใด
          วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2558 ครั้งนี้ดิฉันเปลี่ยนบรรยากาศจากการฝึกกับคอมพิวเตอร์ในห้อง เปลี่ยนมาเป็นการนั่งฟังเพลงบนรถตู้ขณะเดินทางจากบ้านเพื่อกลับหอพัก ดิฉันฟังเพลง Love me Look Like you do ของ Ellie อันที่จริงแล้วดิฉันก็ฟังเพลงนี้อยู่บ่อยๆประมาณที่ว่าร้องตามได้ แต่ก็ไม่ทุกคำค่ะ ครั้งนี้ดิฉันตั้งใจว่าจะเปิดเพลงนี้ให้เล่นวนสักประมาณ 5 รอบ เนื่องจากดิฉันอยู่บนรถตู้โดยสาร ดิฉันจึงต้องใช้สายหูฟังเสียบเข้ากับโทรศัพท์มือถือ เพลงนี้ทำนองไม่ช้าไม่เร็วเกินไป เป็นแนวเพลงที่ใช้คำศัพท์ซ้ำๆในท่อนฮุคของเพลง และท่อนนี้มันติดหูดิฉันเป็นท่อนเเรกที่ดิฉันฟัง เนื่องจากใช้คำเดิมทำให้เกิดความคุ้นเคยท่อนนี้มีเนื้อร้องว่า so love me like you do, love me like you do, touch me like you do, touch me like you do ดิฉันได้ยินตรงคำว่า like นักร้องจะออกเสียง เคอะ สั้นๆทุกครั้ง ซึ่งฟังแล้วมันทำให้สำเนียงเป็นธรรมชาติและลื่นไหล คำว่า like ในท่อนนี้จะอยู่ติดกับคำว่า you เวลานักร้องออกเสียงเขาจะนำตัว k ที่อยู่ท้ายคำว่า like ไปออกเสียงแทนตัว y ในคำว่า you ซึ่งเสียงที่ได้ยินออกมาในรูปของ like kyou ตัว y จะแทบไม่ได้ยินเลยในการออกเสียง
          การฝึกทักษะในรอบนี้ดิฉันได้รับเทคนิคการฟังบางอย่าง อาจจะเป็นเฉพาะดิฉันเองก็เป็นได้ แต่มันได้ผลสำหรับการฝึกของดิฉัน คือ ดิฉันต้องฝึกฟังในบรรยากาศที่เงียบ และดิฉันจะฟังได้ชัดเจนยิ่งกว่าถ้าดิฉันใส่หูฟังแทนการเปิดลำโพงขยายเสียง ดิฉันเองมีความรู้สึกว่าการใช้หูฟัง มันทำให้ประสาทหูของดิฉันมีการตอบสนองต่อการได้ยินเสียงเป็นอย่างดี เพราะดิฉันจะประมวลผลเป็นพยัญชนะแต่ละตัวที่ได้ยินแล้วจึงนำมาร้อยเรียงกันเป็นคำๆ อีกอย่างหนึ่ง การใช้หูฟังสามารถตัดเสียงกวนรอบๆข้างจากภายนอกได้ ทำให้สารที่เราได้รับนั้นมีเสียงอื่นๆปะปนมาน้อย แต่ในทางกลับกันการใช้หูฟังบ่อยๆเป็นเวลานานก็ส่งผลเสียต้อประสาทหูและการได้ยิน ก่อนใช้หรือขณะใช้เราจึงควรทำความสะอาดและตรวจสอบระดับเสียงไม่ให้ดังเกินมาตรฐาน และเทคนิคอีกหนึ่งอย่างก็คือ การออกเสียงภาษาอังกฤษให้มีเสน่ห์ คือการรู้จักเชื่อมคำในประโยคเข้าด้วยกัน เหมือนคำว่า like you อย่างที่ได้ฟังจากเพลง พูดง่ายๆว่า เราต้องใส่จริตของภาษา ถึงแม้ว่าเพลงนี้ดิฉันจะฟังอยู่บ่อยแต่ก็เป็นการฟังแบบผ่านๆไม่ใส่ใจ หรือตั้งใจเลียนแบบอย่างจริงจัง เมื่อตั้งใจอย่างจริงจังแล้ว กลับได้เทคนิคที่น่าสนใจมากๆเลย การพูดภาษาอังกฤษของคนที่พูดคล่องพูดได้เร็วไม่ได้หมายความว่า เขาจะใช้ภาษาสื่อสารได้ดีเสมอไป แต่คนที่พูดแล้วสามารถทำให้ภาษาที่คนฟังแล้ว มีเสน่ห์ฟังลื่นไหลไม่ต่างกับฟังเจ้าของภาษาพูดเอง นั่นจะถือว่าประสบความสำเร็จทางด้านการพูดภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง นี่ถือเป็นข้อพิสูจน์ของทักษะการฟัง ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทุกทักษะก็ว่าได้ ขนาดเยงแค่ฟังไม่กี่อย่างในเวลาไม่กี่วัน ยังเก็บเกี่ยวเทคนิคของทักษะต่างๆได้มากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเราหมั่นฝึกอยู่บ่อยๆ ความฝันที่จะใช้ทักษะให้ได้ดีก็อยู่ไม่ไกล เพียงแค่เราต้องพยายาม อดทน และอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น