Welcome To Blog Translation การแปล 1 By Massalin Saelee 5681114028

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

การฝึกทักษะ...นอกห้องเรียน
ทักษะการฟัง
5 :  (01/09/2015)

          ปัญหาด้านคุณภาพมาตรฐานในเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจะไม่เกิดขึ้นหรือถ้าหากเกิดขึ้นก็แค่เพียงส่วนน้อย ถ้าหากผู้เรียนไม่เพียงแต่โทษบุคคลอื่นหรือโทษสิ่งรอบข้าง แต่รู้จักหันย้อนกลับมามองตัวเองว่าตัวเองมีความบกพร่องในด้านใดบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไข และต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอย่างไร สิ่งสำคัญที่ผู้เรียนควรปฏิบัติคือการพึ่งพาตนเองในการทำสิ่งต่างๆตลอดจนในการเรียนภาษาอังกฤษจนสัมฤทธิผล ซึ่งจะต้องมีการดำเนินงานอย่างเป็นแบบแผน เริ่มตั้งแต่การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายว่าสิ่งที่ผู้เรียนทำผู้เรียนจะให้เกิดผลอย่างไรบ้าง จากนั้นก็รู้จักเตรียม และแสวงหาแหล่งความรู้ ซึ่งจะต้องหาแหล่งความรู้ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการและสิ่งที่ผู้เรียนต้องการจะพัฒนา  ต่อจากนั้นสามารถพัฒนากลยุทธ์การเรียน ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นวิธีการที่ดีมาก เพราะมีการเริ่มตั้งแต่การศึกษาทั้งความรู้ที่สำคัญที่ทุกคนควรรู้ ได้แก่ ศัพท์และไวยากรณ์  และความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของภาษา รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมของชนชาติเจ้าของภาษา ถ้าหากผู้ฝึกมีความตั้งใจและฝึกฝนอย่างจริงจัง ต่อไปเป็นการสังเกต ผู้เรียนภาษาที่ดีก็จะต้องเป็นคนช่างสังเกตว่า ไวยากรณ์ มีโครงสร้างอย่างไร มีการเรียงลำดับคำอย่างไร การท่องจำในเรื่องหรือบทเรียนที่ผู้เรียนต้องการอยากจะรู้ การจดจำอาจจะบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อด้วยการเลียนแบบภาษาและการใช้ภาษาจากบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกับตัวผู้เรียน
           เมื่อรู้จักเลียนแบบแล้วก็รู้จักนำมาดัดแปลงให้ดีขึ้นตามวัตถุประสงค์และสถานการณ์ต่างๆ เมื่อรู้จักเลียนแบบแล้วก็ควรมีการวิเคราะห์ว่ามีความถูกต้อง สมบูรณ์มากน้อยเพียงใด จากนั้นก็มีการค้นคว้าหาความรู้ตามแหล่งข้อมูลต่างๆเพื่อการลงมือปฏิบัติจริงในขั้นการใช้งานเพราะตอนต้นเป็นการรวบรวมข้อมูลและความพร้อมต่างๆ ฉะนั้นในขั้นนี้คือการนำความรู้ที่ได้รับ ได้ฝึกฝนมาทดสอบว่าได้รับความรู้ดังกล่าวที่ได้เรียนรู้มานั้นมีเพียงพอหรือไม่ หากมีข้อบกพร่องตรงจุดใดก็จะมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อหาโอกาสทดสอบใหม่เพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้น ซึ่งจากการที่ดิฉันได้สำรวจตนเองแล้วพบว่า ดิฉันยังอ่อนทักษะทางภาษาในทุกด้านที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงและพัฒนา ซึ่งดิฉันได้ตัดสินใจเริ่มพัฒนาทักษะจากการฟัง เพราะการฟังเป็นพื้นฐานทางการฝึกทักษะทางภาษาและนำไปสู่การฝึกทักษะอื่นๆต่อไป ภายในเวลา 1 สัปดาห์ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2558 ดังต่อไปนี้
          1 กันยายน 2558 เริ่มจากการฟังบทสนทนาง่ายๆ ที่มี ชื่อว่า การฟังเพื่อฝึกแยกเสียงที่คล้ายกัน เป็นบทเรียนแบบอัตโนมัติมีหน้าตาคล้ายกับแบบฝึกหัดในหนังสือ มีทั้งหมด 10 ข้อ แต่ละข้อจะมีไฟล์เสียงและให้เรากดปุ่มฟัง ในขั้นแรกดิฉันเลือกบทเรียนที่อยู่ในระดับ1 พื้นฐานมาเลยเพราะต้องการจะฝึกจากง่ายๆก่อน แล้วค่อยไปยากกว่าเดิมตามทฤษฎีที่ดิฉันได้ค้นเจอในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งเป็นการให้คำแนะนำโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลับมาสู่แบบฝึกหัดอีกครั้งนะค่ะ ปุ่มเล่นเสียงในบทเรียนออนไลน์นี้กดฟังได้ตามความต้องการเมื่อกี่ครั้งก็ได้ เมื่อฟังจนมั่นใจแล้ว ด้านหลังจะเป็นกล่องข้อความให้เราพิมพ์คำตอบที่เราได้ยินจากเสียงนั้นว่าเป็นคำศัพท์คำอะไร ให้เราพิมพ์ตามที่เราได้ยิน เมื่อทำอย่างนี้ครบทั้ง10ข้อแล้ว ด้านล่างจะมีปุ่มกด ตรวจคำตอบอัตโนมัติและบอกคะแนนให้ทราบ ในครั้งที่ดิฉันตรวจคำตอบดิฉันสามรถทำคะแนนได้เพียง4 ใน10ข้อ ทำให้ดิฉันยิ่งตระหนักว่าทักษะ ทางด้านการฟังของดิฉันไม่ดีเอาเสียเลย ดิฉันใช้เวลากับการฝึกอยู่กับบทเรียนนี้ประมาณ 1ชั่วโมง ตรวจคำตอบทั้งหมด 7 ครั้ง ครั้งสุดท้ายดิฉันทำได้คะแนน 7 ใน10 ถือว่าคะแนนดีขึ้นหลังจากที่ฟังหลายๆรอบ แต่ในการใช้บทเรียนนี้เราต้องใจแข็งตรงที่ถ้าทำผิด เราห้ามกดปุ่มเฉลยคำตอบเด็ดขาด นั่นถือว่าเราไม่ซื่อสัตย์กับการฝึกของตัวเอง ดิฉันถือว่าพอใจในคะแนนระดับหนึ่งแต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะว่า บทเรียนนี้เป็นเพียงแค่บทเรียนระดับ1 เอง อย่างไรก็ตามดิฉันรู้สึกว่าการฝึกทักษะยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาให้กับการเรียนรู้ เพราะฉะนั้นดิฉันจะใจร้อนไม่ได้ [acceptable, rhyme, possible, schedule, bargain, argument, believe, bicycle, equipment, challenge] และนี้คะ คือหน้าตาของคำศัพท์ที่ดิฉันได้ฝึกฟังจากบทเรียนนี้ ดิฉันได้แนบที่อยู่เว็บไซต์บทเรียนนี้ไว้ด้านล่างนี้ด้วยคะ จากผลการตรวจคะแนนในครั้งแรกทำให้ดิฉันยิ่งตระหนักว่าทักษะทางด้านการฟังของดิฉันไม่ดีเอาเสียเลย ดิฉันใช้เวลากับบทเรียนบทนี้อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยทำซ้ำๆกดปุ่มฟังเสียงแล้วพิมพ์คำตอบ  http://www.learnenglishfeelgood.com/listening/english-spelling-practice1.html
          วันจันทร์ ที่ 7 กันยายน 58 ตามคาบเรียนของวันจันทร์ ตอนช่วงบ่ายเป็นคาบเรียนวิชาการศึกษาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาโดย อาจารย์ Chuck อาจารย์สอนเกี่ยวกับเทศกาลวัน Halloween และเปิดการ์ตูนเรื่อง ghost house ตัวละครในการ์ตูนดำเนินเรื่องโดยพูดเป็นภาษาอังกฤษ การได้ดูการ์ตูนถือเป็นการฝึกพัฒนาทักษะโดยบังเอิญ การ์ตูนเรื่องนี้มีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง เสียงของคนที่พากย์การ์ตูนเรื่องนี้อาจเป็นเด็กและพูดน่าฟัง ทำให้ดิฉันตั้งใจฟังอย่างไม่น่าเบื่อ และด้วยความที่เป็นการ์ตูนเหมาะกับเด็กจึงทำให้ภาษาในการ์ตูนไม่ยากนัก ดิฉันยอมรับเลยว่าดิฉันไม่อาจฟังละเข้าใจในทุกคำที่ได้ยินได้ คำบางคำที่ได้ยิน ดิฉันรู้สึกว่าคุ้นหูแต่กลับนึกไม่ออกว่าแปลว่าอะไร กว่าจะนึกคำศัพท์คำนี้อยู่การ์ตูนก็พูดมาอีกยาวมากมายฟังไม่ทันแปลไม่ออกกันเลยทีเดียว แต่โดยส่วนใหญ่ที่ดิฉันได้ฟังและได้ดูด้วยตา ทำให้ดิฉันเข้าใจในสิ่งที่ตัวละครในเรื่องต้องการจะสื่อ จากการเข้าใจความหมายของคำศัพท์บางคำ และนำมาปะติดปะต่อจนเข้าใจการ์ตูนทั้งเรื่อง และก็สามรถสนุกไปกับการฟังภาษาอังกฤษได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย แต่ดิฉันก็ต้องยอมรับอีกว่าทักษะการฟังภาษาอังกฤษของดิฉันยังไม่ดีถึงขั้นจะสามรถดูหนังและเข้าใจได้ในสิ่งที่ตัวละครพูดทั้งหมด ดิฉันอาจจะต้องไปฝึกทักษะการฟังขั้นพื้นฐานอย่างเดิมเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก
          การพัฒนาทักษะไม่ว่าจะเป็นทักษะใดล้วนต้องใช้ความพยายาม และความอดทนเป็นที่ตั้ง ยิ่งการพัฒนาทางด้านการฟังแล้วยิ่งต้องใช้ความอดทนสูง เพราะทักษะการฟัง ผู้ฟังจะต้องใช้สมาธิใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ถ้าผู้ฟังไม่สามารถฟังจับใจความอะไรได้ ก็เท่ากับการสื่อสารล้มเหลวและเป็นเรื่องที่ยากที่จะต่อยอดหรือพัฒนาทักษะทางด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นทักษะทางด้านการพูดแล้วละก็ต้องมีพื้นฐานทางการฟังที่ดี เพราะต้องอาศัยการฟังแล้วนำมาเลียนแบบสำเนียงที่ได้ยิน ถ้าหากเราฟังไม่ออกแล้วเราจะสามารถเลียนแบบสำเนียงจากเจ้าของภาษาได้อย่างไร ยิ่งปัจจุบันทักษะทางด้านภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากไปกว่านั้น คือ มีความจำเป็นที่จะต้องพบเจออย่างหลีเลี่ยงไม่ได้ การที่เรารู้จักตนเองยอมรับในจุดด้อยแล้วพยายามหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาในสิ่งที่เป็นข้อด้อยของตัวเองแล้ว เรื่องที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของผู้ที่ตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษ และพึงระลึกให้ได้อยู่เสมอเลยว่าความสำเร็จทุกประการล้วนมาจากความพยายามมุ่งมั่น เอาชนะใจตัวเอง แล้วเราจะถึงเส้นชัยได้อย่างสวยงาม


http://www.learnenglishfeelgood.com/listening/english-spelling-practice1.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น