การถ่ายทอดตัวอักษร
ในปัจจุบัน
มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสารเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง
มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการแสดงและอธิบายความหมายเพื่อการโต้ตอบ
ระหว่างมนุษย์ทั่วโลก จากการที่การคมนาคมสื่อสารเจริญรุดหน้าไปมาก คนต่างชาติต่างภาษาในโลกได้มีการติดต่อกันมากขึ้นทุกวัน
การแปลจึงทวีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากประเทศไทยมีการติดต่อกับต่างประเทศใน
วงการต่างๆมากขึ้น ผู้ที่ทำการติดต่อนั้นบางคนอาจจะรู้ภาษาต่างประเทศไม่ดีพอ
จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้แปลเพื่อประหยัดเวลาและเพื่อให้ได้งานที่มี ประสิทธิภาพ
งานแปลจึงสามารถยึดเป็นอาชีพได้และได้รับการยกย่องว่าเป็นอาชีพที่ช่วยเสริม
สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศให้เร็วยิ่งขึ้นโดยเฉพาะทางด้าน
เทคโนโลยีจากการที่ประเทศไทยได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับนานาประเทศมากขึ้น
นอกจากความสัมพันธ์ด้านการเมืองแล้ว ยังมีความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ
ทำให้เกิดความจำเป็นในการที่ต้องมีการถ่ายทอดความจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง
เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศที่ใช้ภาษาต่างกันสามารถทำความเข้าใจกันได้ การถ่ายทอดความรู้ดั่งกล่าวนั้นก่อนจะทำได้เราต้องมีความรู้ทางด้านภาษาที่มากพอ
และต้องศึกษาอย่างถี่ถ้วน
การถ่ายทอดภาษาผ่านตัวอักษรเป็นวิธีทีสำคัญและจำเป็นอย่างมาก
สำหรับการเรียนภาษาที่สอง
การถ่ายทอดตัวอักษรหมายถึง
การนำคำในภาษาหนึ่งมาเขียนด้วยตัวอักษรของอีกภาษาหนึ่ง
โดยพยายามให้การเขียนในภาษาใหม่นี้ถ่ายทอด “เสียง” ของคำในภาษาเดิมให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้
การถ่ายทอดตัวอักษรมีบทบาทในการแปลจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งในกรณีต่อไปนี้
1. เมื่อในภาษาต้นฉบับมีคำที่ใช้แทนชื่อเฉพาะของสิ่งต่างๆ
เช่น ชื่อคน ชื่อสถานที่ ชื่อแม่น้ำ ชื่อภูเขา หรือแม้แต่ชื่อสถาบันต่างๆ
2. เมื่อคำในภาษาต้นฉบับมีความหมายอ้างถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรม
หรือนามธรรมที่ไม่มีในสังคมของภาษาฉบับแปลจึงไม่มีคำเทียบเคียงให้ (equivalent word) เช่นคำที่ใช้เรียกต้นไม้ สัตว์และกิจกรรมบางชนิด
ความคิดบางประเภทซึ่งมีในภาษาอังกฤษแต่ไม่มีในภาษาไทยเนื่องจากยังไม่มีการบัญญัติศัพท์ขึ้น
ในกรณีเช่นนี้ผู้แปลอาจแก้ไขปัญหาได้สองประการ คือ
2.1
ใช้วิธีให้คำนิยามหรือคำอธิบายที่บอกลักษณะตรงกับคำเดิมนั้น
2.2 ใช้ทับศัพท์
ตัวอย่างเช่น “ฟุตบอล”
ซึ่งเมื่อจะถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอาจทำได้โดยให้คำนิยามว่า “ลูกกลมๆ ทำด้วยหนัง”
หรือใช้ทับศัพท์คำว่า “ฟุตบอล”
ในการทำดังนี้ผู้แปลควรยึดหลักปฏิบัติในการถ่ายทอดเสียงของคำดังต่อไปนี้
1. ให้อ่านคำนั้นเพื่อให้รู้ว่าออกเสียงอย่างไร
ประกอบด้วยเสียง “phone” อะไรบ้าง
แล้วหาตัวอักษรในภาษาฉบับแปลที่มีเสียงใกล้เคียงกันมาเขียนแทนเสียงนั้นๆ
2. ภาษาทุกภาษาจะมีเสียงพยัญชนะและสระตรงกันเป็นส่วนมาก
และผู้แปลจะหาตัวอักษรมาเขียนแทนได้เลย
3.
เมื่อกำหนดตัวอักษรใดอักษรหนึ่งแทนเสียงใดเสียงหนึ่งแล้วให้ใช้ตัวนั้นตลอดไป
อย่าเปลี่ยนไปมาไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทแปลเดียวกันต้องใช้หลักการถ่ายทอดอย่างเดียวตลอดไป
4. สำหรับการยืมคำศัพท์มาใช้โดยเขียนลงเป็นภาษาในฉบับแปล
ถ้าคำนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลายให้วงเล็บคำเดิมในต้นฉบับไว้ด้วย
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่นำมาถ่ายทอดเป็นภาษาต่าง
ๆ มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะการถ่ายทอดเป็นภาษาไทย เพราะแหล่งความรู้สมัยใหม่มักเขียนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลาง
การสื่อสารต่าง ๆล้วนให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ เช่น Internet
ภาพยนตร์ จดหมายสมัครงาน การสัมภาษณ์งาน การเจรจาธุรกิจ
การทำสัญญาต่างๆ ภาษาอังกฤษจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้เปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งความรู้
เช่นการอ่านตำราภาษาอังกฤษ การสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กับชาวต่างประเทศ ดังนั้นการแปลจึงมีความสำคัญตามไปด้วยเพราะจำเป็นต้องถ่ายทอดข้อมูลมาเป็น
อีกภาษาหนึ่ง ผู้แปลต้องเข้าใจภาษาทั้งสองเป็นอย่างดี คือทั้งภาษาต้นฉบับและภาษาฉบับแปล
ต้องมีความรู้และภูมิหลังในเรื่องที่จะแปลพอสมควร ต้องมีความสามารถในการใช้ภาษาเป็นอย่างดีเพื่อจะได้ถ่ายทอดความคิดของผู้
เขียนต้นฉบับให้ผู้อ่านฉบับแปลรู้เรื่อง เข้าใจและอ่านได้อย่างอรรถรส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น