Welcome To Blog Translation การแปล 1 By Massalin Saelee 5681114028

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558



อบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
วันที่ 29-30 ตุลาคม 2015
ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติธรรม


  
(เสวนาวิชาการงานวิจัย Beyond Language Learning)
วันที่ 29 ตุลาคม 2015 (ช่วงเช้า)

          ปัจจุบันการสอนภาษาอังกฤษมีการพัฒนาให้มีความก้าวหน้า และผสมผสานกับเทคนิคต่างๆมากมาย การค้นคว้าหาที่มาและต้องการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ งานวิจัยในปัจจุบันล้วนมุ่งที่จะค้นหาวิธีทำให้ตัวผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ให้มากที่สุด สามารถช่วยเหลือตนเองให้เกิดการเรียนรู้อย่างสูงสุดให้ได้ จึงเป็นที่มาของผลงานวิจัยที่เป็นหัวข้อการสนทนา (Beyond Language Learning) เพราะท่านคณาจารย์ต้องการหาข้อพิสูจน์ของการคิด และการคิดวิเคราะห์ (critical thinking)
          ระหว่าง thinking และ analysis มีความแตกต่างกันอย่างไร ท่านคณาจารย์ได้ร่วมกันเสวนาว่า การคิด (thinking) คือ ทักษะที่ใช้ความคิดเห็นสิ่งต่างๆแล้วนำความรู้มาใช้บ่งบอกว่าสิ่งนั้นคืออะไรจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เคยพบเจอ ส่วนการคิดวิเคราะห์ (analysis) คือ ทักษะการใช้ความคิดที่มีอยู่มาประมวลผลแล้วแยกแยะว่าสิ่งไหนคืออะไร รวมถึงยังสามารถจัดกลุ่มการแยกแยะได้ร่วมกับการให้เหตุผลประกอบถึงสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไปท่าน ดร.สุจินต์ หนูแก้ว ได้ยกตัวอย่างง่ายๆว่า การคิดกับการคิดวิเคราะห์แตกต่างอย่างไร คือ การที่เราให้นักเรียน แยกว่า อันไหนกระดุม ลูกปัด และลูกแก้ว ลักษณะการคิดแบบใช้การคิดแบบไหนเป็นสิ่งไหน แต่ยิ่งไปกว่านั้นถ้ากลุ่มนักเรียนยังสามารถแยกได้ลึกไปยิ่งกว่านั้นว่า กระดุม ลูกปัด ลูกแก้ว เหล่านั้นทำมาจากวัสดุอะไร มีสีอะไร นั้นคือการคิดแบบการคิดวิเคราะห์ ที่คิดลงไปในเชิงลึกอีกและจำแนกสิ่งต่างๆออกมาได้
          จากการอธิบายเหล่านี้สามารถตระหนักถึงความคิดของตัวเองว่าใน1วันของดิฉัน ดิฉันทราบเลยว่าวันนึงคนเราใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าความคิดของเรานั้นเป็นแบบความคิดธรรมดา หรือเป็นความคิดแบบคิดวิเคราะห์ ซึ่งปัญหาเกิดขึ้นว่าแล้วเราจะจัดการกับความคิดได้อย่างไร ความคิดของเรามีทั้งความคิดที่มีมาจากการจดจำและความคิดผ่านประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้เมื่อนำมาบูรณาการเข้าด้วยกันก็จะกลายเป็นความรู้ความคิดที่ผ่านการประมวลผลและถ่ายทอดออกมา ซึ่งที่ครูจะต้องขัดเกลาที่มาของความคิดเหล่านี้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้กับความคิดออกมาใช้ร่วมกันและเพิ่มเติมสิ่งที่เรียกว่า การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เพื่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน





แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นปฏิสัมพันธ์/ความเหมาะสมในการใช้ภาษา
29 ตุลาคม 2015 (ช่วงบ่าย)

          การเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้ได้ผลมากที่สุดคือ ตัวผู้เรียนจะต้องมีความขยันกล้าที่จะเปลี่ยนทศนคติจากเดิม ในขณะเดียวกันการถ่ายทอดความรู้จากตัวครูผู้สอนยังเป็นตัวแปรและตัวชี้วัดที่สำคัญ เพราะฉะนั้นครูจะต้องคิดและควบคุมชั้นเรียนให้มีทิศทางที่บรรลุไปยังเป้าหมายวัตถุประสงค์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ตัวครูผู้สอนจะต้องคำนึงก็ คือ ตัวผู้เรียนนั้นแต่ละคนมีความสามารถที่จะเรียนรู้ได้แตกต่างกันดังนั้นแนวปฏิบัติแผนการสอนวิธีการถ่ายทอดย่อมมีรูปแบบที่แปลกใหม่ และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
          ภาษาอังกฤษมีหลากหลายรูปแบบของการเรียนรู้ และสามารถมีวิธีการถ่ายทอดได้มากมายดังที่ท่านวิทยากร ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ได้มีการแนะนำไว้ในการอบรมครั้งนี้ คือ การสอนคำศัพท์(เริ่มจากคำใกล้ตัว เพิ่มทักษะการจำโดยการเสริมการค้นคว้าที่มาของคำศัพท์) การสอนแบบแสดงละคร(ผู้สอนพูดให้น้อย เน้นให้ผู้เรียนมีการแสดงออกโดยดึงประสบการณ์ที่เคยพบเจอ) การสอนออกเสียง(สามารถบูรณาการร่วมกับการสอนคำศัพท์ได้โดยต้องให้ผู้เรียนฝึกพูดออกมาเยอะๆรวมทั้งการสอนอวัยวะต่างๆที่ใช้ในการออกเสียง) การสอนแบบวัฒนธรรม(เน้นให้ผู้เรียนมีการแลกเปลี่ยนศึกษาวัฒนธรรมเจ้าของภาษา โดยละทิ้งความเป็นภาษาแม่) และการสอนแบบเล่นเกม(ผู้เรียนจะมีความสนใจ และให้ความร่วมมือมากถ้ามีของรางวัล) ทั้งนี้การประยุกต์ใช้ในการสอนแต่ละแบบผู้สอนต้องคำนึงถึงตัวผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง แล้วต้องทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างสูงสุด
          แนวทางในการสอนภาษาอังกฤษสามารถมีการบูรณาการได้มากกว่า1วิชา เพราะโดยความจริงเป็นแล้วตัวภาษาอังกฤษไม่ได้มีเนื้อหาเป็นของตัวเองภาษาอังกฤษต้องยืมเนื้อหาจากวิชาอื่นมาบูรณาการกับหลักทฤษฎีของภาษาเองสังเกตได้ว่าภาษาอังกฤษมักใช้เนื้อหาที่ทันสมัย เช่น ข้อมูลข่าวสาร มาเป็นตัวเนื้อหาเพื่อถ่ายทอดตัวทฤษฎี ดังนั้นครูที่สอนภาษาอังกฤษจะต้องมั่นศึกษาและใฝ่หาความรู้ให้ก้าวทันต่อโลกรวมถึงจะต้องหาแนวการสอนใหม่ๆอาจไม่ใช้แนวการสอนที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นไปได้ เพราะแนวการสอนสามารถออกแบบได้ไม่จำกัดขึ้นอยู่กับรูปแบบการเรียนการสอนของตัวครูและความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียน
         





                                                                                    
อบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษบูรณาการทักษะ
วันที่ 30 ตุลาคม 2015 (ช่วงเช้า)

       การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นกลวิธีการเรียนรู้ซึ่งเปิดโอกาสให้ใช้วิธีการตั้งคำถาม และกระบวนการแสวงหาหาความรู้ทักษะ โดยไม่ยึดติดโครงสร้างของสาขาวิชาต่างๆทางด้านวิชาการ เพื่อประโยชน์การจดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนกรเรียนรู้แบบบูรณาการเป็นการเชื่อมโยงความคิดรวบยอดจากวิชาหนึ่งไปยังอีกวิชาที่นำเข้ามาผสมผสาน เป็นการส่งเสริมให้มีการขยายโลกทัศน์และวิสัยทัศน์ให้กว้างขึ้น ตอบสนองความสามารถทางพหูปัญญาของผู้เรียนยังสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนเข้ากับชีวิตจริงและสร้างสรรค์ความรู้ด้วยตนเองได้จนเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมายมากขึ้น
       การศึกษาในศตวรรษที่21 จำเป็นที่จะต้องมีการบูรณาการจัดการเรียนการสอนประสาไปพร้อมกับองค์ความรู้หลัก คือ ความตระหนักเกี่ยวกับโลก,ความรู้ความเข้าใจด้านการเงินเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเป็นผู้ประกอบการ,ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่พลเมือง,ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพ,ความรู้ความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการศึกษาจะต้องคำนึงถึง Learning to know, to do, to live with the others, to be ครูในศตวรรษที่21 จะต้องออกแบบการเรียนการสอนและออกแบบโดยสอดคล้องกับเทคโนโลยีต่างๆมีการปรับการเรียนการสอนอย่างบูรณาการกับนวัตกรรม ICT โดยใช้ระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ยุคใหม่มาสนับสนุนการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กยุคใหม่ด้วยสารสนเทศรอบด้าน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีจัดการห้องเรียน สามารถยกระดับคุณภาพสถานศึกษายุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ สร้างความเท่าเทียมกันด้านการศึกษา
       การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการในการศึกษาของศตวรรษที่21 ควรมีการสอนแบบจัดการเรียนรู้ยกระดับ คือ สอนเฉพาะส่วนที่สำคัญ เรียกว่า “Essential” และความรู้จะเชื่อมโยงกันเอง การสอนให้น้อยลงได้เรียนรู้มากขึ้น โดยให้เด็กเรียนรู้จากการทำงานจริงผ่านประสบการณ์ โดยครูมีหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือโดยการออกแบบการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างเหมาะสมของบริบทแต่ละคนและมีการเน้นให้ทุกฝ่ายมารวมตัวกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ สิ่งที่สำคัญควรมีการส่งเสริม3ทักษะที่สำคัญ คือ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมการสร้างสรรค์มีการอย่างเป็นระบบ(การตัดสินใจ/ตัดสิน และการแก้ปัญหา) ทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร สื่อ และเทคโนโลยี ทักษะชีวิตและการประกอบอาชีพ ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง




                                                                                               
กิจกรรมกลุ่ม จำลองห้องเรียน และการจัดการเรียนรู้การสอน
วันที่ 30 ตุลาคม 2015 (ช่วงบ่าย)

  สังคมการศึกษาในบ้านเรา ผู้ปกครองส่วนใหญ่เห็นว่าการเรียนนั้นเป็นเรื่องสำคัญกว่ากิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ผู้ปกครองส่วนใหญ่ต่างก็อยากให้บุตรหลานตั้งใจเรียน เพื่อที่จะได้รับเกียรตินิยมเพราะเชื่อว่านั่นคือ ใบเบิกทางที่จะทำให้บุตรหลานของตนได้ทำงานที่มั่นคงและรายได้ดี การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มนอกห้องเรียนจะช่วยให้เขาได้รับการเรียนรู้ในการวิธีการแก้ปัญหามีความรับผิดชอบ และความอดทนทุกคนจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถที่มีอยู่แล้วออกมา และจะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ไปในตัว ดังนั้นการเรียนเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กคนนั้นจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แต่การเรียนรู้จากกิจกรรมนอกห้องเรียนจะทำให้เขาได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่สอนจากตำราเรียน อึกทั้งยังได้สัมผัสถึงวิธีการทำงานจริงอีกด้วย
จากการฝึกอบรมกับ ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติธรรม ท่านได้พูดถึงการทำกิจกรรมกลุ่ม และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานกลุ่ม กิจกรรมแรกเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะโดยใช้ชื่อว่า “Tic Tac Toe”  ที่สอนให้รู้จักใช้ไหวพริบพร้อมกับการออกกำลังกายโดยใช้ท่าทางประกอบ กิจกรรมที่สอง คือ การใช้จังหวะเพลงประกอบและส่งลูกบอล20ลูกไปต่อๆกัน เมื่อเพลงจบลูกบอลหยุดที่ใคร คนนั้นต้องออไปเป็นตัวแทนที่ช่วยกันแต่นิทานหนึ่งเรื่อง โดยให้พูดได้คนละ1ประโยตเท่านั้น เมื่อนิทานเสร็จสมบูรณ์ ก็ให้แบ่งกลุ่มวาดภาพเพื่อเล่านิทานหนึ่งเรื่องนี้โดยจะต้องเล่านิทานจากภาพให้จบภายใน3ประโยค แลกลุ่มไหนที่ผลงานโดดเด่นก็จะได้รับรางวัลตอบแทน
กิจกรรมเหล่านี้ต้องอาศัยหลายทักษะทั้งจินตนาการในการแต่งนิทาน ฝีมือการวาดภาพที่สามารถใช้เป็นสื่อประกอบการอธิบายนิทาน และสิ่งที่ได้รับยิ่งไปกว่าตัวเนื้อหาคือ การได้ทำงานร่วมกันเป็นทีม ฝึกความรับผิดชอบ การแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบในการทำงานให้เสร็จภายใน15นาที จะเห็นได้ว่าการสอนโดยใช้เทคนิคแบบบูรณาการนอกจากเด็กจะได้รับความรู้แล้วยงเป็นการดึงดูดความสนใจจากผู้เรียน และฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น และใช้ทักษะความสามารถในแต่ละด้านของตนเองออกมา ซึ่งการสอนแบบผสมผสานรูปแบบนี้ผู้เรียนจะมีส่วนร่วมในการทำงาน และเรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านการทำงานจริง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น