การฝึกทักษะ....นอกห้องเรียน
10
: 06/10/2015
การฝึกทักษะการพูด
การใช้ภาษาอังกฤษให้ดีได้นั้นมิใช่เพียงแค่เรามีความรู้และความเข้าใจในรูปแบบของการท่องจำเพียงอย่างเดียว
การใช้ทักษะทั้ง 4 ด้าน ฟัง, พูด, อ่าน,เขียน
จะต้องมีความสอดคล้องและถูกต้อง
และหนึ่งสิ่งที่ช่วยพิสูจน์ความสามรถของทักษะเหล่านี้ คือ
การนำเอาความรู้ที่มีอยู่นั้นออกมาใช้ผ่านรูปแบบของการสื่อสาร
และการสื่อสารนั้นจะต้องมีความถูกต้องและผิดพลาดน้อยที่สุด
ซึ่งในสัปดาห์นี่ดิฉันมีความตั้งใจที่จะฝึกทักษะการพูดต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว
และทักษะการฝึกพูดให้ได้ผลสำเร็จเราก็ต้องฝึกสื่อสารออกมาให้ได้มากที่สุด
เราจะต้องฝึกพูดให้ชาวต่างชาติเข้าใจ
จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วดิฉันได้ฝึกทักษะด้วยการทำความเข้าใจทฤษฎีและฝึกปฏิบัติเล็กน้อย
สัปดาห์นี้เป็นเทศกาลงานบุญสารทเดือนสิบ ดิฉันที่มีญาติที่มาจากประเทศสิงคโปร์
ดิฉันจึงใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ดิฉันมีเวลา 4 วันในการฝึกพูดภาษาอังกฤษกับญาติของฉัน เธอมีชื่อว่า เอมม่า
เป็นผู้หญิงอายุ 25 ปี
วันศุกร์ที่
09/10/2015 วันนี้เป็นวันที่เอมม่าเดินทางมาถึง
ดิฉันจึงรีบออกจากหอพักพร้อมกับครอบครัวเพื่อเดินทางไปรับเอมม่าที่สนามบินนครศรีธรรมราช
เมื่อเอมม่า มาถึงสิ่งแรกที่ฉันเจอคือ เธอพูดภาษาไทยได้คล่องมากกว่าที่ดิฉันคิด
ทั้งๆที่เธอเองก็ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ ส่วนคุณน้าของดิฉันเป็นคนไทยแท้
แต่กลับพูดภาษาอังกฤษได้ชัดเจนมาก ดิฉันจึงขอให้เอมม่าใช้เพียงภาษาอังกฤษในการสนทนากับฉัน
หลังจากที่ดิฉันได้อธิบายเหตุผลให้เอมม่าฟังเธอยินดีและเต็มใจช่วยดิฉันอย่างเต็มที่
วันแรกกับการพูดภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่ดิฉันจะเป็นคนสอยถามเธอเกี่ยวกับความเป็นอยู่
อย่างเช่น How many day will you stay
at here? และเอมม่าก็ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ดิฉันกำลังพูดออกไป
แต่ทว่าบางประโยคเอมม่าก็ยังคงดูงงๆ อยู่บ้าง
แต่ดิฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้าและพร้อมที่จะใช้ภาษาอังกฤษกับเอมม่า
เพราะเธอน่ารักและคอบช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่การพูดของฉันเกิดความผิดพลาด
เธอจะอยู่ที่นี่ และนอนกับฉันอีก 3 คืนฉันจะต้องเก่งกว่านี้ให้ได้
วันเสาร์ที่
10/10/2015 ตื่นเช้าวันนั้นเริ่มต้นบทสนทนาแรกกับภาษาอังฤษ
ดิฉันเริ่มมีความรู้สึกคล้ายๆว่านี่ตัวฉันเองอยู่เมืองนอกหรือนี่ ฉันรู้สึกดีมากๆ
เพราะดิฉันไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน Good morning Amma. การสนทนานี้เรียนมาตั้งแต่เด็ก
ถึงคราวได้ใช้จริงๆแล้วหรือนี่ คำถามเหล่านี้ดังก้องอยู่ในหัวของฉันตั้งแต่เช้า
พอดีวันนี้ข้างบ้านของดิฉันมีตลาดนัดตอนเช้า ฉันจึงชวนเอมม่าไปตลาด Will you go to the market with me? เอมม่ายิ้มแล้วบอกกับฉันว่า Oh! Good English. ตอนนั้นฉันดีใจมากเพราะไม่เคยมีใครบอกกับฉันแบบนี้มาก่อน
เอมม่าให้กำลังใจคนเก่งจริงๆ แล้วเธอก็ตอบตกลงว่า OK.
I will. พอเราออกไปตลาดเป็นเรื่องปกติคนในตลาดสนใจเอมม่าเอามากๆ เพราะเธอน่ารักและเป็นมิตรมาก ฉันถามเธอว่า What would do you like? เธอยิ้มแล้วตอบอย่างช้าๆชัดๆว่า I would like some mango. ฉันจึงพาเธอไปที่ร้านขายผลไม้ทันที
เธอหัวเราะอบใจและถามฉันว่า Why
these mango unfresh? ฉันขำจนหัวเราะเสียงดัง แม่ค้ายังถามฉันอีกว่า มีอะไรเหรอ
เอมม่าพูดว่าอะไร ฉันก็ได้แต่ยิ้มๆแล้วรีบซื้อของ
วันอาทิตย์ที่
11/10/2015 เช้าวันดิฉันพร้อมกับครอบครัวจะต้องไปทำบุญที่วัดและแน่นอนวันนี้ดิฉันก็ยังคงอยู่กับเอมม่า
และเธอก็จะไปรับกับพวกเราด้วย เธอถามฉันว่า Why
are you go to the temple? ดิฉันถึงกับอึ้งเพราะตามความเข้าใจและไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ตอบไปจะถูกต้องหรือเปล่า
That our come to the temple because we
are Buddhist and today is the day of making merit to who was die in the past. ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ตอบคำถามเอมม่าไปอย่างนั้นจะถูกต้องตามหลักไวยากรณ์หรือเปล่า
แต่หนึ่งสิ่งที่ฉันสัมผัสได้คือ เอมม่าเข้าใจในสิ่งที่ฉันพยายาม
และเธอก็มีท่าทีซาบซึ้งมาก ฉันยังพูดแนะนำทำให้เธออยู่ในอาการที่สำรวม Amma, you should respect of the monk and Buddha. Don’t speak
or do anything loudly. นั่นเพราะเอมม่าเป็นคริสเตียนเธอจึงไม่สารถนั่งไหว้พระอยู่ได้
ฉันจึงต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอ
วันจันทร์ที่
12/10/2015 วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ฉันเศร้าใจมาก
เพราะเอมม่าและน้าของฉันจะต้องเดินทางกลับสิงคโปร์
ขณะเดินทางไปสนามบินนครศรีธรรมราช เอมม่าได้บอกกับฉันว่า Mass all time I stay with you, you are smiley and smart girl.
I think that you told and I hope to your English skill is perfect soon. เมื่อถึงสนามบินเอมม่าได้ให้รูปถ่าย 1 ใบแก่ฉัน มันเป็นรูปเกาะๆหนึ่งในสิงคโปร์ เธอบอกกับฉันว่า Someday I will take you to it, and that day you are good
English teacher for me. Sour! ฉันรู้ดีว่านี้คือการให้กำลังใจในแบบของเอมม่า
ฉันจึงตอบเธอไปว่า Thank Amma you are the best
sister and English teacher for me. Next year, we will meet together. Lucky for
your travelling! ฉันรู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย สิ่งที่ฉันได้รับตลอด 4 วันที่ผ่านมาและมันคือประสบการณ์ชั้นเยี่ยมที่สุด
อย่างที่เอมม่าได้บอกกับฉันว่า
ภาษาอังกฤษไม่ได้น่ากลัวถ้าเรากล้าที่จะเปิดใจ ไม่มีสิ่งไหนที่จะน่ากลัวอีกต่อไป
ถ้าเราบอกตัวเองว่าเราทำมันได้ ดิฉันมีกำลังใจมากจากการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเอมม่า
ซึ่งจริงๆแล้วถึงเราจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เราก็ไมได้เจอกันบ่อยนัก
ฉันได้เจอเธอครั้งล่าสุดก็ตอนฉันเรียนจบใหม่ๆ ช่วงปิดภาครัยนตอนสงกรานต์
ครั้งนี้เธอกลับไปก็ไม่รู้จะได้เจอกันอีกตอนไหน แต่เอมม่า
คือตัวอย่างที่ดีของคนที่มีความพยายาม เอมม่าเป็นลูกครึ่งที่ไม่ค่อยได้กลับไทยบ่อยนัก
แต่เธอเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษผ่านแม่ของเธอ
ทั้งๆที่คนรอบข้างตัวเอมม่าไม่มีใครพูดภาษาไทยเลย รวมถึงพ่อชาวสิงคโปร์ของเธอ
แต่เธอยังใช้ภาษาไทยได้คล่องมาก
ส่วนฉันคนรอบข้างใช้ภาษาอังกฤษเยอะแยะทำไมถึงยังทำไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น