Welcome To Blog Translation การแปล 1 By Massalin Saelee 5681114028

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การฝึกทักษะ....นอกห้องเรียน
8th : 22/09/2015
การฝึกทักษะการอ่าน
 
          ในสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังโดยการฟังเพลง ฟังบทสนทนา และการดูหนัง ดิฉันสามารถฟังสำเนียงอเมริกันได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งนั่นคือก้าวแรกของการฝึกทักษะ ในสัปดาห์นี้ ดิฉันจึงคิดว่าดิฉันจะฝึกทักษะการอ่าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทักษะที่เป็นการ input ความรู้เพิ่มเติมศักยภาพในการ output ของดิฉันเองการอ่านทำให้เราได้อะไรใหม่ๆ ฝึกเข้าใจความเป็นชาติตะวันตก ซึมซับธรรมเนียมผ่านงานเขียนมากมาย โดยเริ่มจากการนิทานง่ายๆ เนื้อหาสั้น พบว่าดิฉันสามารถพัฒนาตนเองได้ดีขึ้นมากกว่านี้ ดิฉันจึงต้องการฝึกทักษะการอ่าน ซึ่งถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ดิฉันควรได้รับการพัฒนา เพราะดิฉันเป็นคนที่รู้จักคำศัพท์น้อย จึงทำให้อ่านบทความต่างๆไม่ค่อยเข้าใจ ต้องนั่งแปลศัพท์เป็นเวลานาน ทำให้ต้องใช้เวลานานมากในการอ่าน นอกจากนี้ดิฉันยังไม่ค่อยเข้าใจรูปประโยครูปแบบต่างๆที่มีความซับซ้อนมากด้วย จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการทำความเข้าใจบทความที่อ่านด้วยเช่นกัน จากปัญหาข้างต้นนั้นทำให้ดิฉันไม่สามารถอ่านบทความต่างๆได้เข้าใจแบบถูกต้อง เพราะไม่สามารถแปลความหมายของบทอ่านนั้นออกมาได้ทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้ดิฉันไม่ชอบอ่านบทความต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษ มักจะหาบทความที่ถูกแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทยไว้แล้ว
          วันพุธที่ 21/09/2015 ดิฉันอ่านนิทานชื่อเรื่องว่า The Bear and the Travellers เรื่องนี้เป็นเรื่องของชายสองคนที่เป็นเพื่อนรักกัน ร่วมเดินทางไปในป่า วันหนึ่งพวกเขาเจอหมีตัวใหญ่ยักษ์ชายหนุ่มหนึ่งคนเห็นหมีแล้วจึงรีบวิ่งไปแอบหลังต้นไม้ โดยไม่ได้บอกเพื่อนอีกคน เพื่อนอีกคนกว่าจะรู้ว่ามีอันตรายก็ช้าไปเสียแล้ว เขาจึงนอนราบลงกับพื้น เมื่อมีเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วใช้จมูกดมดู เขาก็กลั้นหานใจราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว ตามคำกล่าวที่ว่า ถ้าเจอหมีให้แกล้งตาย  ไม่นานหมีตัวนั้นก็เดินจากไปอย่างช้าๆ เพื่อนของเขารีบวิ่งออกมาจากที่ซ่อนแล้วตรงเข้ามาถามเขาว่า เมื่อสักครู่หมีตัวนั้นได้บอกอะไรกับเจ้าเหรอเพื่อนรัก เขาตอบไปว่า หมีได้บอกข้าว่า จงอย่าร่วมเดินทางไปกับคนที่ทิ้งข้าไว้เมื่อยามมีภัย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ชคชะตามักสอนให้เรารู้จักจิตใจคนเสมอ การอ่านนิทานเรื่องนี้ ดิฉันคิดว่า ดิฉันพอจะอ่านได้ค่อนข้างเข้าใจทั้งหมด เนื่องจากคำศัพท์ง่าย มีภาพประกอบ และเนื้อหาสั้น 

          วันพฤหัสบดีที่ 22/09/2015 ดิฉันเริ่มอ่านเนื้อความยาว และยากขึ้นอีกระดับหนึ่ง Jack and the beanstalk นิทานเรื่องเจ็คผู้ฆ่ายักษ์ มีเนื้อเรื่องที่ยาวขึ้นมากว่าเรื่องที่แล้ว  เจ็คได้เมล็ดถั่ววิเศษมาจากชายแก่คนหนึ่ง เมล็ดถั่วโตเป็นต้นถั่วสูงขึ้นไปบนสวรรค์ เจ็คปีนขึ้นไปจนพบเมืองยักษ์และขโมยไข่ไก่และพิณวิเศษ ยักษ์ตามมาจะเอาของคืนแต่แม่ของเจ็คตัดต้นถั่วทำให้ยักษ์ตกจากต้นถั่วและหายสาบสูญไป หลังจากนั้นครอบครัวของเจ็คก็ร่ำรวยและมีความสุขตลอดมา จากที่อ่านนิทานเรื่องนี้ดิฉันยังสังเกตว่าส่วนใหญ่จะใช้ประโยค Past simple Tense ในการบรรยายเรื่องเกือบทั้งหมด และคำศัพท์ที่ใช้ก็ยังมีระดับที่ยากขึ้นบางคำต้องเปิดดิกชันน่ารี่ เพื่อแปลความหมายอยู่บ้าง

          วันศุกร์ที่ 25/09/2015 ดิฉันเปลี่ยนจากการอ่านนิทานมาเป็นอ่านข่าวบันเทิงในนิตยสาร เป็นบทความที่เขียนถึงนักร้องหนุ่ม Justin Bieber  ว่าเขาเป็นนักร้องที่พรสวรรค์ตั้งแต่เด็ก เขาเปลี่ยนจากการเล่นกีฬามาเป็นการเล่นดนตรี และแม่ของเขาก็สนับสนุนเขาเป็นอย่างดี จนเขาได้ออกอัลบั้มชื่อว่า My world เพียงแค่เพลงแรกเขาก็มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในระดับสากล นอกจากเขาจะมีชื่อเสียงแล้วเขายังบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือกองทุนที่ก่อตั้งโรงเรียนยากไร้ และช่วยเหลือคนยากคนจน จนหลังจากนั้นเขาเริ่มมีข่าวในทางลบเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง ล่าสุดเขามีข่าวว่าเขาขับรถด้วยความประมาทจนเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ในการอ่านข่าวครั้งนี้มีคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายเต็มไปหมด ดิฉันคิดว่าทักษะของดิฉันคงจะอยู่ในระดับปานกลางเพราะเมื่อมาอ่านข่าวนี้ เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนจริงซึ่งดิฉันจะต้องศึกษาคำเหล่านี้ไว้มากกว่าที่ดิฉันรู้

          วันอาทิตย์ที่ 27/09/2015 ดิฉันได้อ่านนิยายเรื่องสั้นเรื่องThe Prison of Zenda เป็นนิยายที่ใช้ในการแปลนิยายงานที่อาจารย์สั่ง เป็นนิยายที่อ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดพร้อมทั้งแปลคำศัพท์ยากๆ เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาโดยรวมทั้งหมด ประโยคที่ใช้มีทั้งภาษาแบบการบรรยาย และเป็นคำพูดของตัวละครในเรื่องที่คุยกัน อุปสรรคคือ เมื่อเป็นบทของตัวละครคุยกัน ดิฉันมักจะสับสนว่าตอนนี้ในขณะที่อ่านใครเป็นคนที่พูดคำนี้ และพูดถึงใคร พูดกับใคร ดิฉันอ่านไปหาประธานกริยา กรรม และคำสรรพนาม ดิฉันหาแทบไม่เจอ แยกไม่ออกเลย เพราะประโยคค่อนข้างซับซ้อนและมีการละคำจนทำให้ ใจความบางตอนเจ้าของภาษาอ่านแล้วเข้าใจ แต่ดิฉันค่อนข้างงงมาก ต้องอ่านแล้วซ้ำๆหลายรอบกว่าจะผ่านไปแต่ละหน้า นับว่าเป็นอุปสรรคไม่น้อยเลย


          ซึ่งในสัปดาห์ดิฉันไม่ได้เพียงฝึกทักษะการอ่านเพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียว เพราะจากที่ดิฉันได้อ่านบทอ่านต่างๆแล้วนั้นทำให้ดิฉันได้พัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง และมีสำเนียงที่น่าฟัง รวมไปถึงการพัฒนาทักษะการแปลควบคู่ไปด้วยเช่นกัน  เพราะเราจะไม่สามารถอ่านเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษได้เข้าใจหากเราไม่ได้แปลเนื้อเรื่องนั้นมาเป็นภาษาแม่ เพราะเราจะสามารถเข้าใจเนื้อหาของสิ่งที่เราอ่านจากภาษาแม่ได้ดีกว่าภาษาที่สองแน่นอน     สำหรับผู้ที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ การเลือกสิ่งที่อ่านตามความสามารถของเรามีความสำคัญอย่างมาก ถ้าเราเลือกอ่านสิ่งที่ยากเกินไป เต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคและโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนก็คงจะไม่เห็นผลมากนัก นิทานภาษาอังกฤษใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และคำศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น